ติดตั้ง
JDK (Java Development
Kit)
ติดตั้งบนระบบปฏิบัติการ
Window
การติดตั้งจากไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา
การกำหนด
PATH ให้กับคำสั่งต่าง
ๆ ของ Java
บทที่
2
เตรียมพร้อมก่อนเขียนโปรแกรมกับ
Java
ปัจจุบันนี้มีการผลิตโปรแกรมออกมาช่วยในการเขียนหรือพัฒนาโปรแกรมภาษาจาวา
เพื่อทำให้เกิดความง่ายขึ้น
โดยเป็นลักษณะของโปรแกรม
Visual ต่าง
ๆ ได้แก่
Visual Café
– เดิมทีอยู่ใต้สังกัด
Symantec แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น
WebGain สามารถดาวน์โหลดไปใช้ฟรี
30 วัน
ที่ http://www.visualcafe.com/download
เหมาะสำหรับทั้งการทำ
Application และ
การทำ Applet (สนับสนุน
Java2 Platform แล้ว)
รูป
2-1 เว็บเพ็จสำหรับ
visual café
Java Forte – พัฒนาโดยบริษัท Sun Microsystems เอง เป็นเครื่องมือช่วยในการสร้างพัฒนา Java และช่วยในเรื่องของการติดตั้ง Web Service มีบริการให้ดาวน์โหลดไปใช้ฟรีในบางเวอร์ชันที่
http://www.sun.com/forte/ffj/buy.html
Borland JBuilder – เป็นซอฟแวร์ประเภทเดียวกันกับ
รูปที่
2-2 หน้าตาของ
Borland JBuilder ที่มีลักษณะของโปรแกรม
Visual
Oracle JDeveloper – ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเค้าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มาจากค่าย Oracle นั่นเอง ดังนั้นจุดแตกต่างก็คงจะเป็นในเรื่องของการเชื่อมต่อฐานข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ มีเวอร์ชันทดลองให้ดาวน์โหลดไปเล่นกันได้ที่
http://technet.oracle.com/software/products/jdev/
รูป
หนังสือเล่มนี้
ต้องการที่จะนำเสนอในส่วนของการเขียนโปรแกรมภาษาจาวาตั้งแต่เริ่มต้น
จนเป็นแอพพลิเคชั่น
ดังนั้นจึงเลือกโปรแกรมพัฒนาที่พื้นฐานที่สุดนั่นคือ
JDK ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี
100% ได้ที่ javasoft.com
เวอร์ชันล่าสุดของ JDK ที่ออกมาคือ JDK 1.2 ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Java 2 ซึ่งประกอบไปด้วยสอง edition คือ J2SE (Java 2 Platform Standard Edition) และ J2EE (Java 2 Platform Enterprise Edition) ซึ่งสนับสนุนระบบปฏิบัติการดังต่อไปนี้
- Window 95/ 98 /NT /2000 / Me (Inter Platform)
- Solaris SPARC/ x86
-
Linux x86
ก่อนการติดตั้ง ควรตรวจสอบก่อนว่าไม่มีโปรแกรมพัฒนาจาวาอื่น ๆ ถูกติดตั้งอยู่ก่อนหน้านี้ เนื่องจากการมีจาวาติดตั้งหลาย ๆ เวอร์ชันอาจก่อให้เกิดปัญหาในการตั้งค่าต่าง ๆ สำหรับการใช้ได้
§
ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
Window 95/ 98 (1st หรือ
2nd Edition) / NT 4.0
คู่กับ
§ CPU Pentium ความเร็วอย่างน้อย 166MHz
§ หน่วยความจำ 48MB (ถ้าโปรแกรมใหญ่ ๆ ก็จะต้องการมากขึ้น)
§ เนื้อที่ว่างในฮาร์ดดิสก์อย่างน้อย 70 MB
1. การดาวน์โหลดไฟล์เวอร์ชันล่าสุดได้จาก
http://java.sun.com/j2se/1.3 แล้วเลือกคลิกที่ระบบปฏิบัติการที่ต้องการใช้
ในที่นี้เลือก
รูป 2-DL-1 หน้าจอสำหรับดาวโหลด java เวอร์ชัน 1.3
2. จากนั้นเลื่อนหน้าจอลงมาจนถึงส่วยของการดาวน์โหลด แล้วคลิก ปุ่ม <continue>
รูป 2-DL-2 หน้าจอดาวโหลดสำหรับ Microsoft Window
3. จากนั้นมาถึงหน้าจอของการยอมรับเงื่อนไขทางลิขสิทธิ์ ให้เลื่อนลงมาที่ด้านล่างสุดของเพจ แล้วคลิกปุ่ม <Accept>
รูป 2-DL-3 หน้าจอเงื่อนไขทางลิขสิทธิ์
4. สุดท้ายคือหน้าจอดาวโหลดไฟล์ ปกติแล้วการโหลดแบบ ftp เหมาะกับคนที่ใช้ internet ความเร็วสูง อีกทั้งเป็นไฟล์ขนาดใหญ่ (32MB)ใช้เวลาในการดาวโหลดนาน ในที่นี้แนะนำให้ใช้การดาวโหลดไฟล์แบบ HTTP ซึ่งอยู่ด้านล่าง
รูป 2-DL-4 หน้าจอดาวโหลดไฟล์
5. จากนั้นจะมีหน้าจอถามว่าต้องการ save หรือว่าเปิดไฟล์ขึ้นมาเลย ให้เลือก save ไว้ก่อน แล้วเลือกไดเร็คทอรี หรือเปลี่ยนชื่อไฟล์ดังรูป
รูป 2-DL-5
รูป 2-DL-6
6. เมื่อดาวโหลดไฟล์ได้สำเร็จ ก็เริ่มติดตั้งโดยคลิกที่ Start à Run เพื่อเรียกประมวลผลไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา
รูป
7. หรือ ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ j2sdk-1_3_01-win.exe เพื่อเริ่มติดตั้ง (จะทำการแตกไฟล์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการติดตั้งออกมาอัตโนมัติ)
รูป 2-3 การแตกไฟล์ เพื่อเตรียมสำหรับการติดตั้ง
8. หลังจากที่ทำการแตกไฟล์ที่ใช้สำหรับการติดตั้งออกมาพร้อมแล้ว ก็จะเริ่มทำการติดตั้ง Java2 SDK โดยอัตโนมัติจาก รูปนี้ ถ้าต้องการจะลงโปรแกรม ก็ให้คลิก <Next> แต่ถ้าไม่ต้องการก็ให้คลิก <Cancel>
รูป
9. เพื่อเป็นการยอมรับเงื่อนไขทางลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ของการติดตั้งโปรแกรม Java นี้ให้คลิก <Yes> ถ้าคลิก <No> ก็เป็นการออกจากการติดตั้งไปทันที เพราะถือว่าไม่ยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว
รูป
10. ทำการเลือกไดเรคทอรีที่จะติดตั้งโปรแกรมภาษา โดยจะกำหนดค่าเริ่มต้นไว้ที่ C:\jdk1.3.1_01 ถ้าต้องการเปลี่ยน ให้คลิก <Browse> (บางคนอาจลงโปรแกรมภาษาเอาไว้หลายตัว แล้วเก็บไว้รวมกันใต้ไดเรคทอรีใดที่หนึ่ง) แต่ถ้าพอใจที่จะไว้ที่เดิมตามที่เค้ากำหนดมา ก็ให้คลิก <Next>
รูป
11. จากนั้นจะมีหน้าจอเพื่อถามว่าต้องการจะติดตั้งองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะบางคนอาจมีเนื้อที่จำกัด จึงไม่ต้องการติดตั้ง ระบบการสาธิต หรือ ตัวอย่าง ใด ๆ ลงไป แต่แนะนำว่า ควรจะมี Program Files และ Header File ต่าง ๆ ไว้ นอกนั้น ก็เป็นตัวเลือก
รูป
12. เมื่อรอจนการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ นั่นคือ หน้าจอด้านล่างปรากฏขึ้น ให้คลิก <Finish> ก็เป็นอันเสร็จสิ้น โดยอาจจะติ๊กที่ช่อง View Read me ด้วยก็ได้ ถ้าต้องการอ่านข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับ JDK
รูป
การทดสอบสามารถทำได้โดยการเรียกใช้คำสั่งง่าย ๆ จาก MS-DOS COMMAND
1. Start à Programs à Accessories à Command Prompt
รูป 2-4 เลือกเมนูไปยังโปรแกรม Command Prompt
2. ประมวลผลคำสั่งจาวา ‘java –version’ เพื่อเป็นการแสดงเวอร์ชันของจาวาที่เพิ่งทำการติดตั้งเสร็จ
รูป
2-5 หน้าจอผลลัพธ์ของการทดสอบการติดตั้งง่าย
ๆ
3. นอกจากการทดสอบง่าย ๆ ด้วย java –version แล้ว ถ้าต้องการรันคำสั่ง ‘javac’ ที่ใช้ในการคอมไพล์โปรแกรมภาษาจาวา จะต้องมีการอ้างถึง PATH ของ ‘javac’ เองด้วย
รูป 2-PATH-1 ผลลัพธ์จากการประมวลผล javac นอกไดเรคทอรี c:\jdk1.3.1_01\bin
รูป 2-PATH-5 แสดงการเรียกประมวลผล ‘javac’ ที่เรียกรวมกับ PATH ของมัน
จากที่กล่าวข้างต้นในการเรียกคำสั่งที่ต้องรวม PATH ของมันเข้าไปด้วย จะเห็นว่า ถ้าบางคนวางจาวาเอาไว้ใน PATH ยาว ๆ คงจะต้องพิมพ์กันจนเหนื่อยทุกครั้ง ดังนั้น ถ้ามีการกำหนด PATH ให้กับ Window ไว้ก่อน ก็จะทำให้การประมวลผลคำสั่งนั้น ๆ สามารถทำได้ในทุก ๆ ที่ (โดยไม่ต้องมีการรวม PATH เข้าไป)
สำหรับผู้ที่ใช้ Window NT / 2000 / XP ทำได้ดังนี้
§ คลิกขวาที่ไอคอน My Computer แล้วเลือก Properties (สำหรับ NT/2000/XP) หรือ System Information (สำหรับ Me) แล้วเลือกหัวข้อ ‘Advance’
รูป 2-PATH-2 แสดงการเลือก Properties เมื่อคลิกขวาที่ My Computer
§ จากนั้นเลือก ‘Environment Setting’ เนื่องจากเราจะกำหนดค่าให้กับตัวแปร ‘PATH’
รูป 2-PATH-3 แสดงหน้าจอหลังจากคลิก Properties ในหัวข้อ Advance
§ คลิกที่ PATH ตรงหน้าจอด้านล่าง แล้วเลือก <Edit> แล้วให้เพิ่ม ‘c:\jdk1.3.1_01\bin\’ เข้าไปข้างท้าย โดยคั่นกลางระหว่างค่าที่มีอยู่แล้วด้วยเครื่องหมาย ‘;’
รูป 2-PATH-6 แสดงการแก้ไขตัวแปร PATH
§ จากนั้นคลิก <Ok> ค่าที่เพิ่งใส่ไปนี้จะมีผลสำหรับการเปิดใช้ Command Prompt ครั้งต่อไป นั่นหมายความว่า ถ้ามีการเปิดไว้อยู่แล้ว ก็จะไม่มีผล จะต้องปิดไปก่อนแล้วค่อยเปิดใช้อันใหม่
รูป 2-PATH-4 แสดงการเรียกคำสั่ง ‘javac’ จากที่ใดก็ได้หลังการกำหนดค่า PATH
การกำหนดตัวแปร CLASSPATH ให้กับระบบตั้งแต่เริ่มต้น เป็นวิธีเดียวที่จะสามารถทำให้ java รู้ว่า CLASS ต่าง ๆ ที่ถูกเรียกใช้นั้น จะถูกเก็บไว้ที่ใด แต่เนื่องจากใน JDK 1.3 นี้จะมีกระบวนการค้นหาอยู่แล้ว ทั้งนี้จึงกำหนดให้เป็น ‘.’ นั่นคือที่ไดเรคทอรีปัจจุบัน โดยวิธีการทำเหมือนกันกับการกำหนดค่า PATH ข้างต้น
ก่อนการกำหนดค่านั้น ให้สามารถทำการตรวจสอบก่อนว่ามีการกำหนดค่าอยู่แล้วหรือไม่ เนื่องจาก ถ้ามีการติดตั้ง JDK เวอร์ชันอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ อาจทำให้เกิดการค้นหาผิดที่ ดังนั้นถ้ามีการกำหนดค่าอยู่ก่อน ให้ทำการลบค่านั้น ๆ ทิ้งออกให้หมด แล้วค่อยกำหนดค่าใหม่ลงไป
การตรวจสอบง่าย ๆ ทำได้โดยพิมพ์คำสั่ง ‘set’ ที่ Command Prompt
รูป 2-CLASSPATH-1 แสดงผลลัพธ์การพิมพ์คำสั่ง ‘set’
รูป 2-CLASSPATH-2 แสดงการสร้างค่า CLASSPATH ขี้นมาใหม่ โดยการกด <New>